You are currently viewing พายสับปะรดไต้หวัน ของขึ้นชื่อสุดอร่อย

พายสับปะรดไต้หวัน ของขึ้นชื่อสุดอร่อย

สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวไต้หวันนั้นจะทราบกันดีว่า ของขึ้นชื่อของไต้หวันนั้นนอกจากชานมไข่มุกแล้วก็ยังมี พายสับปะรดไต้หวัน ที่เป็นของขึ้นชื่อ และเป็นของฝากยอดฮิตที่ใครไปใครมาก็ต้องซื้อกลับไป แต่พายไต้หวันนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมอยู่ดีๆพายสับปะรดถึงกลายมาเป็นของขึ้นชื่อของไต้หวันได้ และเราจะนำมาประยุกต์ใช้กับบ้านเราได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากช่วงนี้ประเทศไทยมีภาวะการล้นตลาดของสับปะรดนับหลายหมื่นตัน โรงงานสับปะรดกระป๋องนั้นรับซื้อสับปะรดจำนวนน้อยลง เหตุเพราะความต้องการของตลาดโลกนั้นลดลง ดังนั้นเราจึงมาลองดูที่มาที่ไปของพายสับปะรดไต้หวันกัน เพื่อนำมาเป็นกรณีศึกษาในการพัฒนาและแปรรูป และเป็นแนวทางในการระบายสินค้าและพัฒนาเศรษฐกิจต่อไป ตามมาดูกันเลยค่ะ

พายสับปะรดไต้หวัน มีที่มาอย่างไร

ในสมัยอดีตนั้นไต้หวันไม่ได้ผลิตสับปะรดเป็นพืชหลักและแทบไม่ปลูกสับปะรดกันเลย แต่ในช่วงหนึ่งไต้หวันได้ถูกญี่ปุ่นเข้ามาปกครองกลายเป็นประเทศอาณานิคม และญี่ปุ่นนี้เองที่นำสับปะรดเข้ามาปลูกและเพาะพันธุ์เผยแพร่ในประเทศไต้หวัน เนื่องจากมีภูมิประเทศที่เหมาะสมสับปะรด จึงกลายมาเป็นพืชเศรษฐกิจของไต้หวัน และไต้หวันนั้นเคยทำอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋องส่งออกเป็นอันดับต้นๆของโลก แต่ในเวลาต่อมาอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋องก็ต้องตกต่ำลง เนื่องจากมีคู่แข่งจากประเทศอื่นที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ทำให้มาตีตลาดและได้ส่วนแบ่งทางการตลาดในส่วนนี้ไป ดังนั้นไต้หวันจึงจำเป็นจะต้องหาทางแปรรูปสับปะรดเป็นอย่างอื่น  เนื่องจากวัตถุดิบมีมากมายเกินกว่าจำนวนที่ต้องการใช้จริง และในบรรดาสินค้าแปรรูปต่างๆที่ทำมาจากสับปะรด พายไต้หวันจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับสินค้าอื่นๆ หลายบริษัทได้ทำการผลิตพายใต้หวันอย่างจริงจังในรูปแบบของของฝาก และส่งเสริมการขายด้วยการจัดเทศกาลเป็นการโปรโมทและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความสนใจมากขึ้น หลังจากนั้นพายสับปะรดไต้หวันจึงบูมขึ้นมา และกลายเป็นของฝากของประเทศไต้หวันจากการทำโฆษณาของภาครัฐและเอกชนนี้เอง

นอกจากได้รับการสนับสนุนยังมีการพัฒนาตัวเอง

แม้จะมีการโปรโมทจากทางภาครัฐและเอกชนจนทำให้พายสับปะรดไต้หวันนั้นกลายเป็นของขึ้นชื่อ และเป็นของฝากระดับประเทศที่ไม่ว่าใครมาใครไปก็จะต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไป แต่บริษัทต่างๆที่ได้ผลิตพายสับปะรดไต้หวันนั้น ก็ยังมีการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องให้มีรสชาติและรูปแบบใหม่ใหม่ออกมา เพื่อดึงดูดความน่าสนใจและทำให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้น  จะเห็นได้ว่านอกจากการผลักดันจากภายนอกแล้วก็ยังมีการพัฒนาจากภายใน และยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในชาติด้วย ด้วยหลายสิ่งที่ประกอบกันนี้เองทำให้กลายเป็นจุดแข็งของสินค้าชนิดนี้ดังนั้นไทยควรศึกษาเป็นตัวอย่างและมีการสนับสนุนเรื่องของการแปรรูปผลิตภัณฑ์และผลักดันให้กลายเป็นสินค้าชนิดใหม่อย่างจริงจัง ในอนาคตเราอาจจะมีของขึ้นชื่อเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ใหม่ที่แปรรูปมาจากสับปะรดก็เป็นได้